Mouse
การทำงานและหน้าที่ของเมาส์
เมาส์ (อังกฤษ: mouse) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมตัว ชี้บนจอคอมพิวเตอร์ mouse
pointerเป็นอุปกรณ์สำคัญในการใช้งานคอมพิวเตอร์ชิ้นหนึ่ง
ซึ่งปัจจุบันถูกออกแบบมาให้มีรู ปร่าง ลักษณะ สีสัน ต่างๆกัน
บางรุ่นมีไฟประดับให้สวยงาม เพื่อให้เมาะสมกับการใช้งานในแต่ละประเภทและความชื่นชอบของผู้ใ ช้
เช่นมีขนาดเล็ก มีส่วนโค้งและส่วนเว้าเข้ากับอุ้งมือของผู้ใช้ มีรูปร่างสีสันแปลกตาไปจากรุ่นทั่วๆไป
หรือเป็นรูปตัวการ์ตูน และล่าสุดได้มีการพัฒนา เมาส์อากาศ Air Mouse ซึ่งสามารถใช้งานเมาส์โดยถือขึ้ นมาเอียงไปมาในอากาศโดยไม่จำเป็ นต้องใช้แผ่นรอง
ก็สามารถควบคุมตัวชี้ได้เช่นกัน
การทำงานของเมาส์ ภายในตัวเมาส์จะมีอุปกรณ์สำหรับ ตรวจจับตำแหน่งการเคลื่อนไหวของ ลูกกลิ้งยาง(ในรุ่นเก่า)หรืออุป กรณ์ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของแส ง
(ในเมาส์ที่ใช้แอลอีดีหรือเลเซอ ร์เป็นแหล่งกำเนิดแสง)
โดยตัวตรวจจับจะส่งสัญญาณไปที่ค อมพิวเตอร์เพื่อแสดงผลของตัวชี้ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์
การเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ การใช้งานเมาส์ร่วมกับเครื่องคอ มพิวเตอร์นั้นจะต้องมีการต่อมัน เข้ากับช่องต่อของคอมพิวเตอร์
ซึ่งในยุคแรกๆนั้นช่องสำหรับต่อ เมาส์จะมีลักษณะเป็นหัวกลมใหญ่ภ ายในมีขาเป็นเข็มเรียกว่าแบบ
DIN ต่อมามีการพัฒนาช่องต่อเป็นแบบหัวเข็มที่เล็กลงเรียกว่า
PS2 แต่การเชื่อมต่อทั้งสองแบบนั้นไ ม่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลา กหลาย
จึงมีการพัฒนาช่องต่อแบบ USB ขึ้นมา
และในเวลาใกล้ๆกันก็ได้มีการพัฒ นาการเชื่อมต่อเมาส์แบบไร้สายขึ้นนมาโดยใช้สัญญาณวิทยาเป็นตัวเชื่อมต่อแทนสายเรียกว่า
Wireless mouse
เมาส์ได้ชื่อมาจากรูปร่างของตัว มันเอง
และสายไฟ ซึ่งมีลักษณะคล้ายหนูเมาส์และหา งหนู และขณะเดียวการเคลื่อนที่ของตัว ชี้บนหน้าจอมีลักษณะการเคลื่อนที่ไม่มีทิศทางเหมือนการเคลื่อนที่ของหนู
เมาส์ (อังกฤษ: mouse) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมตัว
การทำงานของเมาส์ ภายในตัวเมาส์จะมีอุปกรณ์สำหรับ
การเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์
เมาส์ได้ชื่อมาจากรูปร่างของตัว
ลักษณะการทำงานของเมาส์
1: เมื่อเคลื่อนเมาส์ ลูกบอลด้านล่างจะหมุน
2: จานหมุนสองแนว จับการเคลื่อนไหวของลูกบอล
3: เมื่อจานหมุนทำการหมุน รูบริเวณขอบจานหมุนหมุนตาม
4: แสงอินฟราเรด ส่งผ่านรูจานหมุน
5: เซนเซอร์อ่านค่า และส่งเป็นค่าของความเร็วการเคลื่อนไหวในแนวแกน X และแกน Y
1: เมื่อเคลื่อนเมาส์ ลูกบอลด้านล่างจะหมุน
2: จานหมุนสองแนว จับการเคลื่อนไหวของลูกบอล
3: เมื่อจานหมุนทำการหมุน รูบริเวณขอบจานหมุนหมุนตาม
4: แสงอินฟราเรด ส่งผ่านรูจานหมุน
5: เซนเซอร์อ่านค่า และส่งเป็นค่าของความเร็วการเคลื่อนไหวในแนวแกน X และแกน Y
การใช้งานเมาส์นั้นมีหลายรูปแบบนอกเหนือไปจากการเลื่อนเมาส์เพื่อเลื่อน
เคอร์เซอร์ เช่น การคลิก (การกดปุ่ม) คำว่าคลิกนั้นมีที่มาจากเสียงคลิกเวลาเรากดปุ่มเมาส์นั่นเอง
เสียงนี้เกิดขึ้นจาก micro switch
(cherry switch) และใช้แถบโลหะที่แข็งแต่ยืดหยุ่นเป็นตัวกระตุ้นสวิทช์
เมื่อเรากดปุ่ม แถบโลหะนี้ก็จะงอ และกระตุ้นให้สวิทช์ทำงานพร้อมทั้งเกิดเสียงคลิก และช่วยให้ภายในไม่มีภาวะสุญญากาศเกิดขึ้น
นอกจากนี้นักวิจัยพบว่าผู้ใช้จะตอบสนองกับเสียงคลิกหลังจากกด มากกว่าความรู้สึกที่นิ้วกดลงไปบนปุ่ม
การคลิกครั้งเดียว
(Single
clicking)
เป็นการใช้งานที่ง่ายที่สุด
โดยหมายรวมทั้งการกดปุ่มบนเมาส์ชนิดปุ่มเดียวและชนิดหลายปุ่ม โดยหากเป็นเมาส์ชนิดหลายปุ่ม
จะเรียกการคลิกนี้ตามตำแหน่งของปุ่ม เช่น คลิกซ้าย, คลิกขวา
ดับเบิ้ลคลิก
(Double-click)
เป็นการคลิกปุ่ม
2 ครั้งติดต่อกันอย่างรวดเร็ว ใช้ในการเปิดไฟล์ต่างๆ
ทริปเปิ้ลคลิก
(Triple-click)
เป็นการคลิกปุ่ม
3 ครั้งติดต่อกันอย่างรวดเร็ว ใช้มากที่สุดใน word processors และใน web browsers เพื่อที่จะเลือกข้อความทั้งย่อหน้า
การคลิกแล้วลาก
(Click-and-drag)
คือการกดปุ่มบน object ค้างไว้แล้วลากไปที่ที่ต้องการที่เรากำหนดไว้
Mouse
gestures
Mouse gesture เป็นวิธีการผสมผสานการเลื่อนและการคลิกเมาส์ ซึ่งซอฟต์แวร์ที่จะใช้ได้จะต้องจดจำคำสั่งพิเศษต่างๆ
เหล่านี้ได้ เช่นในโปรแกรมวาดภาพ การเลื่อนเมาส์ในแนวแกน X อย่างรวดเร็วบนรูปร่างใดๆ
จะเป็นการลบรูปร่างนั้น
Tactile
mouse
ในปี 2000 Logitech ได้เปิดตัว tactile
mouse ซึ่งมีชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่ทำให้เมาส์สั่นได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มส่วนติดต่อกับผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัส
เช่นการสั่นเมื่อเคอร์เซอร์อยู่ที่ขอบของ window มีเมาส์ อีกชนิดหนึ่งสามารถถือไว้ในมือโดยไม่ต้องวางบนพื้นผิว
โดยสามารถจับการเคลื่อนไหวได้ถึง 6 มิติ (3 มิติ + การหมุนของ 3 แกน = 6 มิติ)
ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายสำหรับการนำเสนอทางธุรกิจ เมื่อผู้พูดจะต้องยืนหรือเดินไปมา
อย่างไรก็ตาม เมาส์ชนิดนี้ไม่ได้รับความนิยมในวงกว้าง
ความเร็วของเมาส์
ความเร็วของเมาส์มีหน่วยเป็น
DPI (Dots Per
Inch) ซึ่งคือจำนวนพิกเซลที่เคอร์เซอร์จะเลื่อนได้เมื่อเลื่อนเมาส์ไป
1 นิ้ว (หรือบางทีก็เรียกว่า CPI
(Count Per Inch) คือจำนวนครั้งที่เคอร์เซอร์จะเลื่อนได้เมื่อเลื่อนเมาส์ไป
1 นิ้ว) Mouse acceleration/deceleration เป็นทริกของซอฟต์แวร์ที่สามารถทำให้เมาส์เลื่อนช้ากว่าหรือเร็วกว่าความเร็ว
ปกติของมันได้ แต่มีอีกหน่วยนึงที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมคือหน่วย Mickey เพราะว่าค่า Mickey เกิดจากการนับ dot ที่เคอร์เซอร์เคลื่อนไปได้โดยคิดรวมถึง Mouse
acceleration/deceleration ด้วย ทำให้ค่า Mickey สำหรับการใช้งานแต่ละครั้งอาจจะไม่เท่ากัน จึงไม่ได้รับความนิยม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น